วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ในใจเรา




ตอนที่ 6


ทุกคนในงานหันไปพร้อมกันตามเสียงที่มา ก็เห็นหญิงสาวสวยเดินตรงมาที่หน้าเวที พร้อมรอยยิ้มที่ดูเยือกเย็น
“ เธอเป็นใคร” โยธินเอ่ยถามหน้านิ่งๆ ส่วนรติเมื่อเห็นก็จำได้ทันที “เพลิงเพชร”
ศรารันหันมามองรติแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับหันมามองผู้หญิงที่เธอเคยเจอเมื่อไม่กี่วัน
“เป็นใคร? หรือคะ ฉันชื่อเพลิงเพชร เป็นลูกสาวของผู้หญิงที่ชื่อภาวันกับผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบ ที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่เธอท้อง แล้วไม่ยอมไปทำแท้งตามที่ผู้ชายคนนั้นสั่ง หนำซ้ำผู้ชายคนนั้นยังไปแต่งงานกับเพื่อนรักของแม่ ที่ชื่อว่าดรุณี” เพลิงเพชรพูดด้วยรอยยิ้มหยันๆ เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของโยธินกับดรุณี แล้วก็พูดต่อ
“ เป็นอย่างไรบ้างคะคุณโยธิน พอจะทราบหรือยังว่าฉันเป็นใคร คุณคงนึกไม่ถึงล่ะสิ ว่ายังมีลูกสาวอีกหนึ่งคน” ผู้คนในงานต่าง พากันกระซิบกระซาบ
“นี่มันอะไรกันคะ คุณพ่อ คุณแม่” ศรารันไม่เข้าใจ
“ ว่าไงจ๊ะ น้องสาวของพี่” เพลิงเพชรยิ้มอย่างน่ากลัว ศรารันไม่พอใจ จึงพูด
“ ใครเป็นน้องเธอ ไม่ทราบ ฉันไม่มีพี่น้อง”
“ลองถามพ่อของเราดูสิจ๊ะ” เพลิงเพชรเน้นพูดเพื่อกวนอีกฝ่าย โยธินยังทำตัวไม่ถูก คุณหญิงดรุณีจึงพูดขึ้น “ มีอะไรไปพูดกันในบ้านดีกว่า พวกฉันไม่รู้จุดประสงค์ของเธอ ว่าต้องการอะไร และสิ่งที่พูดจะเป็นความจริงแค่ไหน” เพลิงเพชรมองผู้พูดอย่างเหยียดๆ
“ก็ดีเหมือนกัน เพราะแค่นี้ก็ฉาวโฉ่ ไปหลายวันในหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว” เพลิงเพชรพูดใจเย็น


ครอบครัววัชระ ต่างขอโทษแขกในงาน ที่ต้องเลิกงานก่อนเวลา เมื่อส่งแขกเรียบร้อย เหลือเพียงครอบครัววัชระรวมทั้งรติ อยู่ในห้องรับแขก กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างเพลิงเพชร
“ฉันจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดได้ยังไงกัน” โยธินเปิดฉากพูด มองหน้าหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายกับอดีตคนรักของเขา
“ฉันยินดีให้คุณ ตรวจดีเอ็นเอ” เพลิงเพชรท้าทาย
“แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ” คุณหญิงดรุณีเสริม
“ฉันก็จะไม่เรียกร้องอะไร รวมทั้งกราบขอโทษพวกคุณด้วย ………แต่ฉันมั่นใจว่าไม่มีวันนั้นแน่ ถ้าผลออกมาว่าใช่ ฉันจะขอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ รวมทั้งให้คุณโยธิน ประกาศให้คนในสังคมรู้ว่าฉันเป็นลูกสาวคนโต ของครอบครัววัชระ” เพลิงเพชรพูดขึ้นอย่างมั่นใจ
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” ศรารันทำท่าจะโวย แต่รติจับมือไว้ ให้นิ่งก่อน
โยธินนิ่งเงียบ พลางคิดว่า ถ้าผู้หญิงตรงหน้าเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ เขาคงต้องรับข้อเสนอของเธออยู่แล้ว เพราะยังไงเธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสายเลือดของเขา
“ ตกลง” ทั้งหมดหันมามองหน้าโยธิน ทำท่าจะขัดแต่โยธินพูดตัดบท “พรุ่งนี้เราจะไปตรวจ
ดีเอ็นเอ กัน”
“ดีค่ะ” เมื่อทำการนัดสถานที่ เวลา เรียบร้อย เพลิงเพชรก็ขอตัว แต่ก่อนที่จะเดินออกไป เพลิงเพชรเดินตรงไปที่รติ
“ ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับที่ไปส่งฉันที่บ้านเมื่อคราวก่อน” พูดจบเพลิงเพชรก็เหลือบมองมาทางศรารันยิ้มให้นิดๆ เพื่อดูท่าทางของศรารัน ซึ่งก็ได้ผล ว่าศรารันไม่พอใจจนแสดงออกทาง
แววตา เมื่อเพลิงเพชรกลับไปแล้ว ศรารันก็เริ่มพูด
“พี่รติรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรือคะ”
“ คือ พี่เคยร่วมงานกับเขา แต่เคยเจอกันไม่ค่อยบ่อย” รติพูดอย่างปกติ
ศรารันพยายามจะไม่คิดอะไร แล้วหันไปทางบิดา
“ ตกลงว่าคุณพ่อยอมรับใช่มั้ยคะ ว่าที่ เพลิงเพชรอะไรนั่น พูดเป็นความจริง”
โยธินหันไปสบตาดรุณี ก่อนจะพูด “ ใช่ ก่อนที่พ่อจะคบกับแม่ของลูก พ่อเคยคบกับแม่ของเพลิงเพชรตอนเรียนมหาวิทยาลัย แล้ว เธอก็ท้อง ตอนนั้น ……… พ่อเห็นแก่ตัวมาก ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น พ่อก็เลย ให้เธอไปทำแท้ง…..” พอเล่ามาถึงตรงนี้โยธินก็ยิ่งรู้สึกผิด
“แต่เธอไม่ยอม พ่อก็เลยตีตัวออกห่าง ทิ้งเธอไป แล้วไปคบกับแม่ของลูก จากนั้นเราก็ไปเรียนต่อที่เมืองนอกด้วยกัน” ดรุณีก็รู้สึกผิดไม่แพ้กัน “แม่เองก็มีส่วนผิด ที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของแม่ แต่แม่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ภาวันมีลูก” พูดถึงตรงนี้ดรุณีก็หันไปค้อนใส่สามี
“ถ้าฉันรู้ว่าภาวันท้อง รับรองว่าฉันไม่มีทางคบกับคุณแน่” โยธินยิ่งรู้สึกผิด
“ผมขอโทษ ความจริงแล้ว ผมนึกว่าภาวันทำแท้งไปแล้ว เพราะผมคิดว่า ถ้าผมไม่รับผิดชอบเธอคงไม่เก็บเด็กไว้” รติรับฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็นึกเห็นใจเพลิงเพชรขึ้นมา
“เอาเถอะค่ะ ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เดี๋ยวเราก็รู้ผลเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป”ศรารันไม่อยากจะฟังเรื่องราวที่เธอไม่อยากได้ยินอีก
………………………………………………….
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ รีสอร์ทริมเล ระหว่างที่พินิจนัยเดินเล่นอยู่บริเวณหน้ารีสอร์ท สุชาติ ชายวัยกลางคนผู้ช่วยคนสนิทของเขาก็เดินตรงเข้ามาพร้อมเอกสารในมือ
“ คุณนัยครับ เอกสารเกี่ยวกับโครงการทำสปาบำบัดจิตใจมาแล้วครับ”
“เหรอ ดีจริง หวังว่าสปาบำบัดจิตนี้จะ เป็นอีกแรงดึงดูดให้คนมาพักที่นี่นะ” พินิจนัยรับเอกสารมาดู
“ครับ ผมก็คิดอย่างนั้น คุณพินิจนัย นี่ขยันจริงๆ สมกับเป็นลูกคุณท่านจริงๆ” พินิจนัยได้แต่ยิ้ม
………………………………………..

2 ความคิดเห็น: