วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552



ตอนที่ 17

หลังรับประทานอาหารค่ำเสร็จ พินิจนัยอาสาเดินมาส่งศรารัน แม้ว่าเธอจะปฏิเสธ
“นี่คุณ ไม่ต้องเดินมาส่งฉันก็ได้ ฉันเดินมาเองได้ ไม่หลงหรอกน่า” ทั้งคู่พูดคุยระหว่างทาง
“ผมรู้ ว่าคุณไม่หลงหรอก แต่ผมอยากเดินมาเป็นเพื่อน ” พินิจนัยตอบ
“แล้วนึกยังไง อยากจะเดินมาเป็นเพื่อน” ศรารันถาม
“ก็ไม่มีอะไร ผมเป็นเจ้าของที่นี่ ก็ต้องเอาใจใส่แขกทุกคนอยู่แล้ว” ศรารันมองหน้าพินิจนัยอย่างฉงน
“อย่าบอกนะ ว่าคุณ มักจะเดินมาส่งแขกแบบนี้ทุกราย เอ๊ะ หรือว่าเฉพาะแขกผู้หญิง”
พินิจนัยรีบพูด
“เปล่าสักหน่อยคุณ พูดแบบนี้ผมเสียหายนะ” ศรารันมองค้อนอย่างหมั่นไส้
“เป็นผู้ชาย มันจะเสียหายตรงไหนฮะ! พูดยังกับว่าตัวเองเป็นผู้หญิง”
“คุณรู้ได้ไงเนี่ย ว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย อุตส่าห์แอ๊บสุดๆแล้วนะเนี่ย” พินิจนัยแกล้งพูด จนศรารันแอบหัวเราะ พินิจนัยมองหน้าศรารัน เวลาเธอยิ้มหรือหัวเราะ ทำไมเขาจึงมีความสุขไปด้วย
เมื่อเดินมาถึงห้องพัก ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้าน คล้ายๆกัน ของรีสอร์ทริมเล
ศรารันก็เอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะ ที่เดินมาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” พินิจนัยพูดพลางยิ้ม ศรารัน เดินหันหลังเข้าบ้าน พินิจนัยพูดตามหลัง
“กู๊ดไนท์ นะครับ” ศรารันกลับหันมามอง “ เช่นกันค่ะ”
หลังจากไปส่งศรารันเสร็จพินิจนัยเดินกลับมา พลางยิ้มอยู่คนเดียวตลอดทาง เจอกับสุชาติพอดี
จนสุชาติเอ่ยทัก
“คุณนัย อารมณ์ดีเรื่องอะไรหรือครับ เห็นเดินยิ้มมาแต่ไกล” พินิจนัยรีบทำหน้าปกติ
“ อ๋อ…. คือ คืนนี้พระจันทร์สวยดี …ก็เลย อารมณ์ดี ” พินิจนัยพูดเฉไฉ แล้วขอตัวไป
สุชาติมองตาม แล้วแหงนดูท้องฟ้า พลางพูดคนเดียว “มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย คืนนี้ไม่มีพระจันทร์สักหน่อย คุณนัยนี่ก็แปลก”
………………………………….
เช้านี้ เกร็ดดาว มาหาพินิจนัยแต่เช้า อยากจะให้เขาพาไปนั่งเรือเล่น แต่พินิจนัยยังไม่ว่าง เนื่องจากมีลูกทัวร์ มาลง เกร็ดดาวจึงเดินไปที่สปา เพื่อฆ่าเวลารอเขา เธอพบกับศรารันพอดี
“สวัสดีค่ะ คุณดาว” ศรารันทักอย่างเป็นมิตร เกร็ดดาวมองหน้าอย่างหยิ่งๆ
“นึกว่าใคร คุณศรารันนั่นเอง ยังอยู่อีกหรือคะ”
ศรารันหน้าเปลี่ยน “ ค่ะ ฉันติดใจที่นี่ เลยอยากอยู่นานๆ” ศรารันพูดนิ่งๆ จนเกร็ดดาวหมั่นไส้
“ติดใจอะไรหรือคะ”
ศรารันรู้ทันเกร็ดดาว ว่าเธอกำลังหวงพินิจนัย เหมือนอย่างที่เธอเคยหวงผู้ชายคนหนึ่ง แต่ต่างกันตรงที่ตอนนั้นเธอกับรติยังเป็นแฟนกันอยู่ ย่อมมีสิทธ์ที่จะหวงหรือหึง แต่กับเกร็ดดาวและพินิจนัยทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน
“ทุกอย่างค่ะ” ศรารันตอบ เกร็ดดาวมีสีหน้าไม่พอใจ
“ ทุกอย่างที่ว่านี่ คงไม่ได้รวมถึงเจ้าของรีสอร์ทนะคะ” ศรารันเพียงยิ้ม แล้วขอตัวก่อน เกร็ดดาวมองตามอย่างเกลียดชัง


ที่ห้องทำงานของพินิจนัย สุชาติเคาะเดินเข้ามา
“มีอะไรหรือคุณสุชาติ” พินิจนัยยังก้มหน้าก้มตาดูเอกสารอยู่
“คือ ทางเรามีข่าวมา เกี่ยวกับนายอิสระ” สุชาติพูดถึงนายอิสระ ผู้มีอิทธิพล ของท้องถิ่น
“มีอะไร” พินิจนัยหยุดมองเอกสารตรงหน้า
“มีข่าวว่าตอนนี้มันกำลังจะ กวาดซื้อที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ติดๆกัน เห็นว่าจะสร้างบ่อนขนาดใหญ่ มันบอกว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้มาเที่ยวที่นี่ ชาวบ้านจะได้มีรายได้ไปด้วย” พินิจนัยหน้าเครียด
“ไอ้พวกนี้มันบ้า ไอ้เรื่องผิดๆ ขอให้บอกมันเถอะ ทำได้ทุกอย่าง แล้วพวกชาวบ้านขายไปเยอะหรือยัง”
“ก็ยังไม่ค่อยมีหรอกครับ ชาวบ้านไม่ค่อยเห็นด้วย”
“งั้น เห็นที เราต้องไปบอกพวกชาวบ้านว่าอย่ายอมขายที่ดินให้พวกมัน ผมฝากเรื่องนี้ด้วยนะ คุณสุชาติ”
“ครับ แต่มีอีกเรื่องครับ ตอนนี้ พนา ลูกชายนายอิสระ กลับมาจากนอกแล้วครับ คงจะมาช่วยงานผิดกฎหมายของพ่อมันอีกหลายๆอย่าง”
พินิจนัยนึกถึงพนา ศัตรูที่ไม่ถูกกับเขาตั้งแต่เด็กจนโต ตอนอยู่ประถมและมัธยม ก็ไม่ถูกกัน แบ่งเพื่อนเป็นสองฝ่าย ชกต่อยเป็นประจำ พออยู่มหาวิยาลัย เขาสอบติดที่กรุงเทพ ส่วนพนาก็ไปเรียนเมืองนอก แต่ได้ข่าวว่าทำตัวเละเทะ กว่าจะจบได้

ที่ห้องทำงาน
ทางฝ่ายรติ ตั้งแต่เกิดเรื่อง แม้ว่าเขาจะยินดี ที่ได้คบกับเพลิงเพชร แต่ลึกๆในใจก็ยังอดห่วงศรารันไม่ได้ เขาเองก็เสียใจที่ทำร้ายจิตใจของศรารัน แต่เขาเองก็ไม่รู้จะไปขอโทษเธอที่ไหน เพราะไม่ได้ติดต่อกับพ่อแม่ฝ่ายนั้น เพลิงเพชรเดินเข้ามา
“คิดอะไรอยู่หรือคะ” รติหลุดจากภวังค์
“อ๋อ คือ คิดเรื่องงานอยู่ครับ”
เพลิงเพชรมองหน้า
“คงไม่ได้คิดถึงใครอยู่หรอกนะคะ”
“เปล่านี่ครับ”รติปฏิเสธ เพลิงเพชรแอบยิ้มที่มุมปาก พลางคิด คงจะนึกถึงแม่นั่นล่ะสิ! ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโผล่มาสักที



วันนี้พินิจนัยมาทำธุระที่ตัวเมือง ถามศรารันว่าต้องการอะไรมั้ย แต่เธอขอตามมาด้วยอยากจะไปเลือกของเอง พอมาถึง พินินัยแยกไปทำธุระ ส่วนศรารันเดินไปซื้อของ ระหว่างที่กำลังเลือกของ ดูเสื้อผ้า การกระทำของเธอ กำลังอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่ง ที่เห็นเธอตั้งแต่ลงรถมา แล้วเกิดต้องใจ
เธอหยิบดูของประดับเล็กน้อย อย่างเพลินๆ ก็มีเสียงหนึ่งมาทัก
“ชอบหรือครับ” เธอสะดุ้งเล็กน้อยหันไปมอง เป็นชายหนุ่มดูดี
“ ค่ะ สวยดี” ศรารันตอบเป็นมารยาท
“งั้นผมซื้อให้”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันซื้อเองได้” ศรารันไม่เข้าใจ ว่าอยู่ดีๆผู้ชายคนนี้จะมาซื้อของให้ทำไม ผู้ชายคนนั้น มองพลางยิ้ม “นี่คุณ ผู้หญิงที่ไหนเขาก็ชอบให้ผู้ชายซื้อของให้ทั้งนั้นแหล่ะ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย” ศรารันหน้าเปลี่ยน กลายเป็นไม่พอใจ
“เอ๊ะคุณ! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้นนะ อย่ามาดูถูกฉันอีก” ศรารันทำท่าจะเดินหนี แต่ผู้ชายคนนั้นจับแขนไว้ “ จะเล่นตัวไปไหน รู้มั้ยว่าผมลูกใคร”
“นี่ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” ศรารันพยายามสะบัดแขนออกแต่ไม่หลุด อีกฝ่ายยังจับไว้แน่น
พินิจนัยเข้ามาเห็นพอดี จึงรีบวิ่งมา
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” ผู้ชายคนนั้นหันมามอง
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็ แกนั่นเอง ไอ้นัย” ศรารันแปลกใจคนทั้งคู่รู้จักกัน
“แก นั่นเอง ไอ้พนา!” พินิจนัยมองนิ่งๆ “ปล่อยคุณศรารันเดี๋ยวนี้!” พนาจึงปล่อยมองทั้งคู่
“แฟนแกหรือวะ สวยดีนี่ ถ้าเบื่อเมื่อไหร่ ก็บอกฉันได้นะ” พนาพูดพลางมองมาที่ศรารัน
พินิจนัยโมโห กำหมัด ซัดเปรี้ยง! ไปที่ใบหน้าของพนา
ศรารันตกใจ รีบห้ามก่อนที่พินิจนัยจะใส่หมัดครั้งที่สอง แล้วรีบลากพินิจนัยออกไป
“ถ้าแกพูดแบบนี้อีก แกโดนอีกแน่!” พินิจนัยตะโกนพูด พนามองตามอย่างเดือดๆ เอามือจับแก้มตัวเอง “ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”
………………………….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น