วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ในใจเรา


ตอนที่ 3
ที่บ้านสวน เมื่อเพลิงเพชรกลับมาเธอ
ก็รีบไปหาภาคทันที พบป้าสะใภ้ ดูทีวีอยู่
“ป้านวลคะ ลุงภาคล่ะคะ”
“อยู่หลังบ้านจ่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” จากนั้นเธอก็รีบเดินไปทันที
พบลุงของเธอ กำลังปลูกต้นอะไรสักอย่าง
“ลุงคะ”
“กลับมาแล้วเหรอ” ผู้เป็นลุงทักหลานสาวแต่ตากับมือยัง
สาละวนกับพันธ์ไม้อยู่ “เพชรมีเรื่องจะถามลุงหน่อยค่ะ”
“อะไรเหรอ”
“เกี่ยวกับว่าที่คู่หมั้นของศรารัน
ลุงเคยบอกว่าเขาชื่ออะไรนะคะ”
ประโยคนี้ทำเอาภาคชะงักแล้วหันมามองหน้าหลานสาว
“มีอะไรหรือเปล่า”ภาคถามสีหน้าไม่แน่ใจ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แล้วเขาชื่ออะไรคะ” เพลิงเพชร
ไม่สนใจ สีหน้าของภาค “ชื่อ รติ สนิทเศรณี”
ประโยคนี้ทำให้เธอพอใจเป็นอย่างมาก พลางคิดว่าโลกนี้
มันช่างแคบ จริงๆ
“บังเอิญจริงๆ นะคะเนี่ยพอดีเขาติดต่อธุรกิจกับเจ้านายของเพชร”
พูดจบเธอก็เดินออกไปพร้อมรอยยิ้มหน่อยๆอย่างกับสมใจ
อยาก เรื่องใดเรื่องหนึ่งปล่อยให้ภาคมองตามอย่าสงสัย

เพลิงเพชรเดินเข้ามาที่ห้องนอนของตนเอง แล้วหยิบมือถือ
กดโทรหา เพื่อนสนิทของเธอ
“แพรว วันนี้แกว่างมั้ย ฉันอยากเจอแก ที่เดิมแล้วกัน”
หลังจากวางสายเธอก็ยิ้มอย่างคนมีแผน
“นายโยธิน ยัยคุญหญิงดาว …ศรารัน… ถึงเวลาที่พวกแก
จะต้องชดใช้ กับสิ่งที่แม่และฉันได้รับ”

ร้านอาหารเจ้าประจำของเพลิงเพชรและชิดจันทร์หรือแพรว
เพื่อนรัก ตั้งแต่เด็กจนโต “มีอะไรหรือแก” ชิดจันทร์เอ่ยถาม
“ฉันจะเล่าเรื่องๆหนึ่งให้แกฟัง แล้วฉันจะบอกแก ว่าฉันจะทำอะไร”
เพลิงเพชรเล่าเรื่องที่เธอรับฟังจากลุงของเธอเรื่องแม่ ให้ชิดจันทร์ฟัง
ทั้งหมด “โห นี่ฉันไม่ยักจะรู้ว่าที่แม่แกไม่ค่อยเหมือนแม่คนอื่น เอ่อ
…ขอโทษ มีความสุขเหมือนคนอื่นเป็นเพราะเรื่องนี้เองเหรอ”
ชิดจันทร์อยากจะตบปากตัวเองที่ปากไวไปหน่อย
“ใช่ แกพูดถูก บางทีฉันยังคิดว่าแม่ฉันสติลอยไปอยู่ที่อื่น
หรือที่เรียกว่าบ้า” น้ำเสียงฟังดูขื่นขม
“แล้วที่แกเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดนี่ เพื่ออะไรเหรอ”
น้ำเสียงของชิดจันทร์บ่งบอกว่ารู้ทันเพลิงเพชร
“ฉันจะแก้แค้นครอบครัววัชระ ครอบครัวที่มันทำให้แม่ฉันต้องตรอม
ใจตาย” สายตาของเพลิงเพชรมีแววแห่งความแค้น
“แต่แกอย่าลืมสิ ว่านั่น คือพ่อแก แล้วก็น้องสาวต่างแม่แกด้วย”
“ไม่ใช่! ฉันไม่มีพ่อ และนังนั่นก็ไม่ใช่น้องสาวฉัน คอยดูนะนัง
ศรารันมันจะ ต้องเจ็บ ต้องทุกข์เพราะถูกพรากของรัก
ฉันจะทำให้มันผิดหวังจากความรัก เท่าที่ฉันคิดพ่อแม่ของมัน
คงไม่เคยให้มันได้พบเจอความผิดหวัง ฉันอยากจะรู้นักว่าเวลา
มันผิดหวังมันจะเป็นยังไง แล้วพ่อแม่มันก็คงจะไม่มี
ความสุขไปด้วย พูดถึงตรงนี้แล้วฉันอยากจะให้เวลานั้นมาถึงเร็วๆ”
เพลิงเพชรมีสีหน้าน่ากลัวจนชิดจันทร์รู้สึกได้ทันที
“ฉันเป็นเพื่อนแก ยังไงฉันก็อยู่ข้างแก”
“ดี งั้นแกช่วยหาข้อมูลส่วนตัวของครอบครัวนี้ให้ฉัน
แล้วก็ของคุณรติคนรัก ของยัยศรารันด้วย”
“หมายความว่า……..”
“ใช่”
“แต่คู่นี้รักกันมาก ฉันว่าแก” ชิดจันทร์ยังพูดไม่ทันจบ
“แกคอยดูเองละกัน” เพลิงเพชรพูดอย่างมีแผน

ทางด้านบ้านวัชระ ที่กำลังสนทนาเกี่ยวกับ
การจัดงานวันเกิดของโยธิน
“ฉันว่าจะเชิญแขกให้เยอะๆกว่าปีที่แล้วดีมั้ยคะ ถือเป็น
การต้อนรับศราด้วยที่ เรียนจบ ดีมั้ยคะคุณ”
คุณหญิงดาวถามสามีของเธอ
“ก็ดีนะ ผมเห็นด้วย แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ผมว่าเราควร
จะมอบของขวัญพิเศษ ให้ลูกเราด้วยนะ” โยธินพูดยิ้มๆ
“ของขวัญพิเศษอะไรหรือคะคุณ” คุณหญิงดาวสงสัย
“มีสิ่งเดียวที่ลูกของเราได้รับ
แล้วจะมีความสุขไปตลอดชีวิตไงคุณ”
คุณหญิงดาวทำหน้าคิดหนัก แล้วก็เริ่มคิดออก ทำหน้าตื่นๆ
“แต่ทางฝ่ายเราเป็นผู้หญิง คุณพี่จะพูดกับฝ่ายนั้นอย่างไรคะ”
โยธินไม่มีสีหน้าวิตกสักนิด
“เอาเถอะน่า ยังไงรติ ก็รักลูกสาวเราอยู่แล้วช้าเร็ว
ก็ต้องแต่งกันอยู่ดี” คุณหญิงดาวมองหน้า
“ลูกสาวเราเพิ่งเรียนจบนะคะ จะให้รีบแต่งไปไหนกัน”
“รีบแต่งน่ะดีแล้ว ผมกลัวว่าถ้าช้าไป วันดีคืนดี รติเกิดเปลี่ยนใจมี
คนอื่นลูกสาวเราจะ ไม่แย่หรือ คุณลืมไปหรือไงว่าเราไม่เคยเลี้ยงลูก
ให้พบเจอความผิดหวังเลยนะ” โยธินพูดสีหน้าดูวิตก
“ก็จริงอย่างที่คุณพูด แต่รติคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก
เพราะครอบครัวของเรา ก็รู้จักกันดี แถมรติกับศราก็รู้จักกันตั้งแต่เด็ก”
โยธินมีสีหน้าดีขึ้น
“ผมก็หวังอย่างนั้น”

…………………………………………………


เช้าวันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์หน้าข่างสังคม ก็ถูกยื่นให้เพลิงเพชรอ่าน
“อะไร”เพลิงเพชรถามเพื่อนของเธอ
“ก็ข่าวงานวันเกิดคุณพ่อและงานต้อนรับลูกสาวที่เรียนจบจากนอกไง”
ชิดจันทร์เบ้ปากบอก เพลิงเพชรก้มอ่านจนเสร็จก็โยนทิ้ง
“ ดี ฉันจะได้เปิดตัว อย่างเป็นทางการสักที”
“ แกจะทำอะไร” ชิดจันทร์สงสัย เพลิงเพชรยังไม่ตอบ
ได้แต่เหยียดยิ้ม แล้วพลางคิดอยากจะให้ถึงวันงานเร็วๆ


ทางด้าน พินิจนัย ชายหนุ่มหน้าตาดี เป็นที่หมายปองของสาวๆที่รู้จัก
แต่กลับยังไม่มีคนรู้ใจเพียงเพราะเหตุผลที่ว่า เจ้าตัวทำงานหนักและยัง
ไม่เจอใคร ที่เขา คิดจะรัก เขามักจะใช้ชีวิตอยู่ที่ รีสอร์ทริมเล
และฟาร์มพินิจนัย ของเขาที่ ภูเก็ตระหว่างที่ อยู่ในห้องทำงานนั่งดูเอกสาร
เขาก็นึกถึงนามบัตร ของหญิงสาวที่เซ่อซ่า เลยหยิบขึ้นมาดู
“ ศรารัน วัชระ หึ! นี่ถ้าเป็นคนอื่นเธอคงโดนเรียกค่าเสียหายไปแล้ว”
พินิจนัยพูดพลางส่ายหน้าว่าแล้วก็อยากจะแกล้งยัยนี่สักหน่อย
เขาหยิบ โทรศัพท์ ขึ้นมา กดตามหมายเลขที่ปรากฏในนามบัตร
รอสายสักพักก็มี คนรับสาย “ ศรารันพูดค่ะ”
“ คุณศรารันครับ นี่ผมคนที่คุณขับรถชนท้ายรถผม
ผู้เสียหายหมายเลขหนึ่งของคุณน่ะ”
พินิจนัยเอ่ยอย่างยียวน
ศรารันนึกสักพักก็จำได้ “ อ๋อ นายนั่นเองทำไมฉันจะจำไม่ได้
นี่ฉันก็รอให้นายติดต่อมาเหมือนกัน เห็นเงียบหายไปหลายวัน
นึกว่าจะไม่เอาเรื่อง”
ความจริงแล้วเธอก็ลืมจริงแต่แกล้งฟอร์มไปงั้นเอง
“ ตอนแรก ผมก็จะเอาเรื่องเหมือนกัน แต่คิดไป คิดมา
ผมว่าไม่ดีกว่าถือว่าทำบุญละกัน”
“ นี่! ทำบุญ อะไรกัน ฉันไม่ใช่ผู้ยากไร้นะย๊ะ
น้อยๆหน่อยนะคุณ” ศรารันเริ่มขึ้นเสียง
“ โอเค ๆ ผมรู้ว่าคุณเป็นพวกผู้ดีมีอันจะกินละกัน
ส่วนเรื่องรถเอาเป็นว่าผมไม่เ รียกร้องอะไรละกัน
ผมมันคนต่างจังหวัด ต้องทำงานหนักเพื่อแลกเงินมา
ดำรงชีวิต คงไม่มีเวลาไปเอาเรื่องคุณที่กรุงเทพหรอก
เสียเวลาทำมาหากิน แค่นี้นะครับ หวังว่าเราคงไม่พบกันอีก”
พูดจบพินิจนัยก็ตัดสายทิ้ง เหมือนกับรู้ทันว่าอีกฝ่ายจะวีนใส่
“ไอ้บ้านี่!ฉันก็ภาวนาอย่าให้เจอนายเหมือนกัน”
ศรารันพูดใส่มือถืออย่างโมโห

1 ความคิดเห็น:

  1. ดีจังมีนิยายสนุกสนุกให้อ่าน
    จะอ่านทุกวันเลยจร้า

    นางสาววันวิสา กองสำลี50119381

    ตอบลบ