วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ในใจเรา



ตอนที่2

รถคันงามแต่พึ่งถูกสอยท้ายรถไปมาจอดหน้าบ้าน


ชายหนุ่มลงจากรถ ทักทายภาคที่กำลังรดน้ำต้นไม้


"สวัสดีครับคุณลุงภาค"


"อ่าวนึกว่าใคร ตานัยนั่นเองหรอ แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นไงล่ะ สบายดีมั้ย"


"สบายดีครับ พอดีมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ก็เลยถือโอกาสแวะมาหาเพขรน่ะครับ"


"อ๋อ เพชรอนยู่บนบ้านนะแแวะเข้าไปหาสิ"


พินิจนัยรีบเดินไปหาเพลงเพชรทันที


"เพชร" ชายหนุ่งเอ่ยทัก


"นัย" แววตาของเพลิงเพชรมีความยินดีที่ได้เห็นหน้าพินิจนัย แต่ชั่วแวบเดียวเท่านั้น


"มาได้ไงเนี้ย"


"พอดีมาทำธุระที่นี่ แล้วก็เลยแวะมาเยี่ยม"


"ถ้าไม่ทำธุระก็คงไม่มา" น้ำเสียงมีแววน้อยใจ


"พอดีช่วงนี้ยุ่งๆน่ะ ต้องดูแลทั้งรีสอร์ทและก็ฟาร์มน่ะ ขยับไปไหนไม่ค่อยได้"


"เหรอ เป็นลูกชายคนเดียวก็แบบนี้แหละ" น้ำเสียงฟังดูเศร้าๆ จนพินิจนัยสังเหตเห็น


"เป็นอะไรไปไม่สบายหรือเปล่า"


"เปล่าหรอก ว่าแต่กลับไปคราวนี้ แล้วจะมาอีกเมื่อไหร่หรอ" เพลิงเพชรพยายามเปลี่ยนเรื่อง


"ยังไม่รู้เลย แต่คิดว่าน่าจะเร็วๆนี้แหละ เพราะต้องมาติดต่อทำธุรกิจกับบริษัททัวร์หลายๆที่เลยต้องมากรุงเทพฯบ่อยๆ"


"งั้นก็ดีสิเราจะได้เจอกันบ่อยๆ"


"ใช่ พอหลังจากเรียนจบ เราต่างคนต่างก็ทำงาน เลยเจอกันน้อยมาก"
"แล้ววันนี้อยู่ทานข้าวมั้ย"
"แน่อยู่แล้ว นานๆทีจะเจอเพื่อนรักสักที ต้องอยู่นานๆหน่อย"
ประโยคนี้ทำให้เพลงเพชรหยุดยิ้มทันทีก่อนจะกลับมาทำหน้าปกติ


............................................


อาหารมื้อเช้าถูกจัดขึ้นบนโต๊ะ พร้อมกับสมาชิกในครอบครัว
แน่นอนว่าหัวโต๊ะมีหัวหน้าครอบครัวนั่งอยู่เป็นชายวัยเกือบห้าสิบปี
"วันนี้ลูกจะเข้าบริษัทไหม พ่อจะได้แนะนำลูกสาวคนเดียวของพ่อให้บรรดาปู้บริหารและพนักงานรู้จักอย่างเป็นทางการ" โยธินผู้เห็นพ่อเอ่ยถามลูกสาว
"ก็ได้คะ แต่ศรายังไม่อยากทำงานนะคะ ขอพักสักนิดนะ"
"นิดแน่นะ" โยธินหรี่ตามองลูกสาว
"แน่คะ"
"งั้นวันนี้ฉันเข้าบริษัทกับคุณด้วยนะคะ" คุณหญิงดาวเอ่ยขึ้น
"ได้สิ ไปพร้อมหน้าพร้อมตานี่แหล่ะ"

ที่บริษัทเกี่ยวกับธุรกิจนำเข้าแห่งหนึ่ง
เหล่าผู้บริหารและพนักงานต่างต้อนรับลูกสาวท่านประธานที่เพิ่งเรียนจลจากเมืองนอก
"ลูกสาวท่านประธานสวยมากๆเลยคะ"
"แนานอนฉันก็มีลูกสาวคนเดียวนี่"
โยธินภูมิใจมาก พอเสร็จธุระ ศรารันก็ขอตัวก่อน
"จะไปหา รติ อีกละสิ "โยธินเอ่ยอย่างรู้ทัน
"ค่ะ" ศรารันยิ้มตอบ


หน้าห้องทำงานมีเรขาสาวนั่งทำงานอยู่
"สวัสดีค่ะ คุณศรารัน"
"พี่รติอยู่ข้างในใช่มั้ย"
"ค่ะ" จากนั้นเธอก็ทำท่าหยิบโทรศัพท์แต่ศรารันขัดไว้
"ไม่ต้องเดี่ยวฉันเข้าไปเอง"
เสียงประตูดังขึ้น แล้วผลักเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มของผู้เข้ามา
"เที่ยงแล้วคะ คุณชาย ได้เวลาเติมพลังแล้ว ทำงานหนักระวัง
จะได้งานเปป็นภรรยานะค่ะ"
ประโยคนี้เรียนรอยยิ้มจากชายหนุ่ม
"แล้วน้องศรา จะยอมหรือเปล่าล่ะ" ชายหนุ่มล้อกลับ
"ไม่ยอมค่ะ " ศรารันรีบสวนกลับ
"ศราจะไม่ยอมให้อะไรทั้งนั้นมาพรากเราได้หรอกค่ะ" สีหน้าดูจริงจัง รติ อดขำไม่ได้
"ดูทำหน้าซีเรียสมากเลยนะ"
"แน่นอน ก็ศรารันรักพี่ รติคนเดียว รักมากที่สุด
ถ้าศราไม่ได้แต่งงานกับพี่รติ ศราขอตายดีกว่า"
"ศรา พูดอะไรอย่างนั้น ยังไงเจ้าสาวของพี่ก็คือศรารัน วัชระ คนเดียวอยู่แล้ว"
รติพูดให้กำลังใจศรารัน ซึ่งทำเอาเธอยิ้มไม่หุบ


หลังจากทั้งคู่ไปทานอาหารกลางวันเสร็จก็กลับมาที่บริษัทของรติ ตรงลานจอดรถ
"เดี่ยวพี่มีประชุมตอนบ่ายครึ่งกับลูกค้า พี่ต้องไปแล้วละ" รติมองดูนาฬิกาข้อมือ
"งั้น ศรากลับเลยดีกว่าค่ะ" จากนั้นศรารันก็ขับรถของเธอออกไป


ทางด้านเพลิงเพชรที่กำลังตามเจ้านายของเธอมาประชุม
แต่ลืมเอกสารที่รถจึงไปเอา เจ้านายจึงขึ้นไปก่อน ประตูลิฟต์กำลังจะปิด
เพลิงเพชรจึงรีบวิ่งแล้วตะโกนให้คนในลิฟต์รอ
"รอก่อนค่ะ" คนในลิฟต์จึงเปิดให้เพลิงเพชรเข้ามา ทัังคู่สบตากันแวบหนึ่ง
"ขอบคุณค่ะ" สดีครับเธอกล่าวขอบคุณ
ในลิฟต์มีเพียงสองคนเท่านั้น เมื่อถึงชั้นเดียวกัน ต่างฝ่ายก็เดินออก
แล้วตรงไปที่ห้องประชุมเดียวกัน ต่างฝ่ายนึกสงสัยอยู่ในใจ
มาเฉลยตอนที่พบกับคุณกำพล ลูกค้าของรติ และเป็นเจ้านายเพลิงเพชร
"สวัสดีครับคุณรติ" กำพลเอ่ยทัก
"สวัสดีครับคุณกำพล ขอโทษนะครับที่ให้รอ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับเรามันคนคุ้นเคยกัน เอ่อ เดี๋ยวผมแนะนำผู้ช่วยคนใหม่ของผม
ชื่อเพลิงเพชรครับ" เพลิงเพชรยกมือไหว้รติรับไหว้
"เมื่อกี้เจอกันที่ลิฟต์ ผมไม่รู้ว่าเป็นผู้ช่วยคุณกำพล"
"ดิฉันไม่ทราบว่าคุณคือ คุณรติ ขอโทษนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ " รติยิ้มอย่างสุภาพ
เมื่อการประชุมผ่านไปอย่างดี ทางฝ่ายคุณกำพลก็กลับไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น