วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ในใจเรา



ตอนที่1
ณ เรือนไม้หลังหนึ่ง ใจกลางสวนผลไม้นานาชนิด มีหญิงสาว ผมยาว หน้าตาดี นั่งอยู่ตรงชาญหน้าบ้าน เ
ธอกำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตอนเธออายุ 10 ขวบ
….. เธอร้องไห้กอดมารดา ที่กำลังจะจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ ท่ามกลางสายตาของผู้เป็นลุง
พี่ชายของแม่และป้าสะใภ้ “ ดูแลตัวเองดีๆนะเพชร แม่คงอยู่ดูแลลูกอีกไม่ได้แล้ว”
ภาวันพูดกับผู้เป็นลูกซึ่งเอาแต่ร้องไห้ ไม่พูดใดๆ
“ ฝากลูกฉันด้วยนะพี่ภาค” พูดได้เพียงเท่านี้เธอก็สิ้นใจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของทุกคน……

“ นั่งคิดถึงแม่อยู่หรือเพชร” ชายวัยกลางคนทักขึ้นจากด้านหลัง
“ค่ะ เพชรกำลังคิดว่า ตอนที่แม่มีชีวิตอยู่ กับการที่ท่านจากไป สิ่งไหนทำให้แม่มีควาสุขกันแน่”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“ตั้งแต่เพชรเติบโตมา เพชรเห็นรอยยิ้มของแม่น้อยมาก แม่ชอบอยู่คนเดียว บางทีก็แอบร้องไห้”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ภาคผู้เป็นลุง เงียบไปสักพักก่อนจะตัดสินใจพูดบางสิ่ง
“เพชร จำได้มั้ย เกี่ยวกับเรื่องที่เพชรเคยถามลุงเรื่องพ่อ” ประโยคนี้ทำให้เพลิงเพชรต้องหันมามองลุง
“จำได้ค่ะ เป็นคำถามที่เพชรเคยถามทั้งแม่ และลุง แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบสัดครั้ง”
ภาคมองหน้าหลานสาวและตัดสินใจเล่าในสิ่งที่เขาเก็บไว้ในใจมาตลอด
“พ่อของเพชร ชื่อคุณ โยธิน วัชระ เป็นผู้ดี มีเงิน เขารักกับแม่ของเพชร ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย
ทั้งคู่คบกัน จนวันหนึ่งพวกเขาก็ได้ทำสิ่งที่ผิดพลาด จากนั้นไม่นานภาวันก็ตั้งท้อง
พอโยธินทราบเขาก็อ้างว่ายังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อคน เขาให้ภาวันไปทำแท้ง แต่ภาวันทำไม่ได้
เขาจึงตีตัวออกห่างจากภาวัน แล้วไปคบกับผู้หญิงคนอื่น
ภาวันรักโยธินมาก แต่พอรู้ว่าผู้หญิงคนที่คบกับโยธิน คือ ดรุณี หรือ คุณหญิงดาว เพื่อนสนิทของเธอ
ยิ่งทำให้ภาวันเสียใจ แทบจะทำใจไม่ได้ เธอลาออก จากมหาวิทยาลัย ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภาวันแทบจะ
ไม่เป็นผู้เป็นคน เธอคิดจะฆ่าตัวตายตั้งหลายครั้ง ตากับยายของหลานก็พลอยเศร้า ตรอมใจล้มป่วยตาย ภาวันเสียใจ
จนเป็นคนที่ชอบเหม่อลอย อย่างที่เพชรเห็น นั่นแหล่ะ”
“แล้วตอนนี้ ครอบครัวนายโยธิน เป็นไงบ้างคะ” เพลิงเพชรเลี่ยงที่จะใช้คำว่าพ่อ
“เขาก็แต่งงานกับดรุณี อดีตเพื่อนรัก ของแม่เพชรนั่นแหล่ะ มีลูกสาวคนหนึ่ง ชื่อ ศรารัน รู้สึกว่าโยธินจะรัก
และหวงลูกสาวคนนี้มาก ลุงได้ข่าวว่าเพิ่งจะเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก เธอมีว่าที่คู่หมั้น เป็นนักธุรกิจหนุ่ม ไฟแรง รู้สึกจะชื่อ รติ”
เพลิงเพชรรับฟังอย่างเจ็บปวด และรู้สึกถึงแรงแค้นภายในใจตนเอง

………………………………..

กลางท้องถนนมีรถสัญจรไปมา หนึ่งในนั้น มีรถของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังขับอย่างลังเลอย่างกับคนไม่ชินเส้นทาง
“ โอ้ย ทำไมมันงงอย่างนี้นะ รู้งี้ไม่ขับมาเองดีกว่า” เธอบ่นพึมพำ และมัวแต่มองข้างๆจนลืมมองข้างหน้า
ทันใดนั้นเอง รถเธอก็ชนท้ายคันหน้าอย่างจัง!
เธอตกใจ ทำอะไรไม่ถูก มารู้ตัวอีกที ก็มีคนมาเคาะกระจกประตูรถของเธอ
“ เฮ้ย! นี่มันอะไรกันคุณ ขับรถเป็นเปล่าเนี่ย อยู่ดีๆมาเสยท้ายรถผมเนี่ย ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะคุณ”
ชายหนุ่มหน้าตาดี ทำหน้ามุ่ย บ่งบอกว่าอารมณ์เสีย หญิงสาวรีบลงจากรถ สีหน้าตกใจ
“ เออ คือ ฉัน ฉัน ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ”
“ เหอะ ตั้งใจก็บ้าแล้ว แต่ผมต้องการให้คุณแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่นั่งนิ่งเป็นหินแบบเมื่อกี้”
ชายหนุ่มไม่หยุดอารมณ์เดือดง่ายๆ จนหญิงสาวก็เริ่มจะโมโห
“ นี่คุณ! ที่ฉันนิ่งก็เพราะฉันตกใจ คุณไม่ต้องกลัวหรอกยังไงฉันก็รับผิดชอบอยู่แล้ว”
หญิงสาวเดินกลับเข้าไปในรถ หยิบนามบัตรของเธอส่งให้ชายหนุ่ม
“นี่ นามบัตรฉัน มีอะไรเคลียร์กันทีหลังแล้วกัน วันนี้ฉันรีบ”
กล่าวจบหญิงสาวก็รีบขึ้นรถขับออกไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงง พร้อมกับก้มลงอ่านนามบัตร “ ศรารัน วัชระ”
ณ คฤหาสน์หลังงาม รถของศรารันเลี้ยวจอดหน้าบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอ ศรา เป็นอะไรไป ดูทำหน้าทำตาเข้าสิ แล้วทำไมกลับมาเร็วจัง ไหนบอกว่าจะไปหาพี่รติไง ”
คุณหญิงดาวเอ่ยทักลูกสาวหน้าบ้าน เห็นลูกสาวทำหน้าบูดบึ้ง
“ คือ ศรา ขับรถชนท้ายรถคนอื่นค่ะ ศราก็เลยหมดอารมณ์ไปไหนทั้งนั้น”
“ตายจริง เป็นอะไรหรือเปล่าเนี้ย” คุณหญิงดาวรีบทำการสำรวจลูกสาว
“เปล่าค่ะ ศราได้ให้นามบัตรไปแล้ว เดี๋ยวเขาก็คงโทรมาเอง ดูท่าทางอีตานั่นหน้าเลือดจะตาย”
ศรารันพูดอย่างหมั่นไส้
………………………………..

3 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อเรื่องชวนติดตามดีคะ

    ตอบลบ
  2. น่าติดตามมากอ่ะ

    งัยก้อเอามาลง

    อีกนะจ๊ะ

    รออ่านยุเน้อ....

    ตอบลบ
  3. เนื้อเรื่องยาวได้ใจจริงๆเลยค่ะ

    แต่ก็สนุกดีนะ..อิอิ

    ตอบลบ